ฉุกเฉิน! หากรถยนต์เกิดเสียบนทางด่วน ต้องทำอย่างไร? ขับรถอยู่บนทางด่วน แล้วเกิดเหตุฉุกเฉิน รถเสียบนทางด่วน ควรทำอย่างไร แล้วจะสามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้บ้าง

ฉุกเฉิน! หากรถยนต์เกิดเสียบนทางด่วน ต้องทำอย่างไร ขอความช่วยเหลือจากใครได้บ้าง?

ปัญหารถเสีย เหตุฉุกเฉิน สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ไม่เว้นแม้แต่บนทางด่วน เพราะสาเหตุที่ทำให้รถเสียมีหลายอย่าง ยิ่งผู้ขับขี่ที่ใช้รถอย่างเดียว ไม่ดูแล ไม่ตรวจเช็กสภาพยิ่งมีความเสี่ยงมากกว่าปกติ มาดูกันว่าหากวันดีคืนดีเกิดรถยนต์เกิดเสียบนทางด่วน ต้องทำอย่างไร แล้วจะสามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้บ้าง?

รถยนต์เกิดเสียบนทางด่วน ต้องทำอย่างไร?

  1. นำรถเข้าจอดบริเวณไหล่ทาง หากรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ รถยนต์เกิดความขัดข้องให้ตั้งสติ แล้วรีบนำรถยนต์เข้าจอดบริเวณไหล่ทางเพราะจะมีพื้นที่กว้าง เสี่ยงอันตรายน้อย แต่หากไม่มีไหล่ทางให้จอดชิดขอบทางด้านซ้ายสุด พร้อมเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อให้สัญญาณกับรถที่ตามมา ส่วนกรณียางแตกห้ามเหยียบเบรกกะทันหันเพราะเสี่ยงเกิดอันตรายสูงมาก ให้ค่อยๆ ประคองรถเข้าข้างทางจนกว่ารถจะจอดสนิท

  2. วางสัญญาณเตือน สำหรับรถยนต์คันไหนที่มีกรวยส้ม หรือป้ายสามเหลี่ยมสะท้อนแสงติดมาในรถ ให้นำไปวางไว้ทั้งบริเวณหน้ารถและท้ายรถ โดยทิ้งระยะห่างจากตัวรถอย่างน้อย 30 เมตร เป็นสัญญาณเตือนบอกรถคันอื่นๆ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

  3. โทรขอความช่วยเหลือ เมื่อวางสัญญาณเตือนเรียบร้อยแล้ว ให้รีบโทรขอความช่วยเหลือทันที จะโทรสายด่วนต่างๆ หรือขอความช่วยเหลือจากบริษัทประกันก็ได้ สายด่วนขอความช่วยเหลือเมื่อรถเสียบนทางด่วน ⮚ ทางด่วน (การทางพิเศษแห่งประเทศไทย) โทร. 1543 ⮚ ทางหลวงและมอเตอร์เวย์ โทร. 1586 ⮚ โทลเวย์ โทร. 1233 ⮚ ตำรวจทางหลวง โทร. 1193 กรณีที่ไม่สามารถโทรขอความช่วยเหลือด้วยโทรศัพท์มือถือได้ ให้โทรขอความช่วยเหลือโดยใช้โทรศัพท์ฉุกเฉินสีส้ม ที่จะถูกติดตั้งไว้ตามไหล่ทางฝั่งซ้าย ทุกระยะ 500-1,000 เมตร

  4. นั่งรออยู่ในรถพร้อมคาดเข็มขัดนิรภัย เมื่อโทรแจ้งเพื่อขอความช่วยเหลือแล้ว ให้กลับเข้ามานั่งรอในรถพร้อมทั้งคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย เพื่อป้องการโดนรถเฉี่ยวชน เพราะทางด่วนเป็นทางที่ใช้ความเร็วสูง หากจำเป็นจะต้องลงจากรถให้ล็อกรถให้เรียบร้อย รวมถึงนำของมีค่าออกมาด้วย ยืนรอในที่ที่ปลอดภัยห่างจากถนน โดยให้พิจารณาตามสถานการณ์

  5. โทรแจ้งบริษัทประกันรถยนต์ นอกจากโทรขอความช่วยเหลือแล้ว ก็อย่าลืมโทรแจ้งว่าเกิดเหตุรถเสีย รวมถึงควรถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานด้วย เพื่อเป็นการยืนยันว่ารถเสียจริง เจ้าหน้าที่ฝ่ายเคลมจะได้เข้ามาที่เกิดเหตุ รวมถึงบริษัทประกันรถยนต์จะเป็นตัวกลางในการเคลียร์หากเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน หรือเสียค่าปรับจากการกีดขวางทางด่วนด้วย รถเสียบนทางด่วน ทำไมห้ามลงจากรถ!

เป็นสิ่งที่ต้องเตือนกันอยู่เสมอๆ หากเกิดเหตุฉุกเฉินรถเสียบนทางด่วนสิ่งที่ห้ามทำคือการลงจากรถ เพราะทางด่วนเป็นถนนที่รถยนต์ส่วนใหญ่ใช้ความเร็วสูง อาจทำให้เกิดอันตรายได้ ถ้าไม่จำเป็นแนะนำให้นั่งรอบนรถจะปลอดภัยกว่า มีข่าวออกมาให้เห็นบ่อยๆ ว่ามีผู้เสียชีวิตบนทางด่วนจากการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เสียชีวิตมักจะอยู่นอกตัวรถ เพราะในปัจจุบันยังมีผู้ขับขี่จำนวนมากที่ชอบขับรถหรือแซงบริเวณไหล่ทาง

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการป้องการปัญหารถเสียในระดับหนึ่ง ควรดูแลรถยนต์ ตรวจเช็กสภาพตามกำหนดเป็นประจำ รวมถึงคอยสังเหตุความผิดปกติขณะขับขี่ และไม่ควรปล่อยให้น้ำมันหมดถัง จะได้ไม่ต้องมาเกิดปัญหารถเสีย น้ำมันหมดระหว่างทาง เกิดเหตุบนทางด่วนยังสามารถขอความช่วยเหลือได้ง่าย แต่ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินบริเวณที่เปลี่ยว หรือชนบท จะลำบากเอาได้

ตรวจเช็กสภาพรถยนต์เรียบร้อยแล้วก็อย่าลืม ทำประกันรถยนต์ติดเอาไว้ด้วย เพื่อเป็นอีกหนึ่งหลักประกันความเสี่ยงในการขับขี่ สำหรับใครที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันไม่แพง ครอบคลุมการคุ้มครองในส่วนของอย่างประกันรถยนต์ชั้น 2 ถือว่าตอบโจทย์เป็นอย่างมาก และเพื่อเพิ่มความคุ้มค่าแนะนำให้ทำประกันรถยนต์ผ่าน Rabbit Care ที่ www.rabbitcare.com เพราะคุณจะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมอีกมากมาย